วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

ลดการกระจายเชื้อโรคโดยการใช้ผ้าปิดจมูก

           การักษาผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด จะแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางการรักษาอาการสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื่อไวรัสหวัดแล้ว และแนวทางการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคและป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโรค

แนวทางการรักษาโรค
1. ต้องพักผ่อนมากๆ และอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
2. กินอาหารที่มีประโยชน์และย่อยง่าย และควรดื่มน้ำมากๆ
3. ไม่ควรอาบน้ำ แต่สามารถเช็ดตัวได้
4. ควรปิดจมูก ปาก เวลาไอหรือจาม หรือใช้ผ้าปิดจมูกก็ได้ และบ้วนน้ำลายลงในภาชนะที่ใส่ยาฆ่าเชื้อโรค
5. ควรพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
6. ควรหยุดพักงานหรือการเรียนชั่วคราว จนกว่าจะหายเป็นปกติ แต่หากยังมีอาการไอ จาม อยู่ก็ควรป้องกันโดยใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อโรค

แนวทางการป้องกัน
1. กินอาหารที่เป็นประโยชน์
2. ออกกำลังกายและพักผ่อนนอนหลับและทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ
3. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดยัดเยียด และควรสวมผ้าปิดจมูกทุกครั้งเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง
4. รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
5. อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่าใช้ของร่วมกับผู้ป่วย

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

นอนกรน ในวัยเด็ก ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง

              โรคนอนกรน ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยว่าพบในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเพศชาย แต่รู้หรือไม่ว่า ในวัยเด็กก็สามารถที่จะมีอาการนอนกรนได้เช่นกัน

               จากการศึกษามาแล้วพบว่าการนอนกรนทำให้ประสิทธิภาพการนอนหลับในเด็กที่นอนกรนนั้นอาจมีผลเสีย ซึ่งทำให้เด็กเจริญเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร อาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางร่างกายช้ากว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน เนื่องจากว่าเวลาที่การนอนหลับไม่ดี ฮอร์โมนตัวหนึ่งที่เกี่ยวกับการสร้างการเจริญเติบโตที่อยู่ในร่างกายจะทำงานได้น้อยลง หรือสร้างได้น้อยลง นั่นเอง

               มีการศึกษาจำนวนมากว่า เด็กที่นอนกรนจะมีความสามารถต่ำกว่าเด็กทีไม่ได้นอนกรน ส่งผลให้การเรียนตกต่ำไป หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าการนอนกรนส่งผลที่เกี่ยวข้องกับการเรียน และการเจริญเติบโตได้มากทีเดียว

               การดูแลสุขภาพทั่วๆ ไป คือ ไม่ให้เด็กดื่มน้ำเย็น หรือระวังไม่ให้ถูกลมพัดโดนหน้าอก จะทำให้การเจ็บคอของคนไข้ลดลง ต่อมทอนซิลก็จะลดขนาดลง สามารถที่จะทำ ให้เด็กนอนกรนลดลงได้ ถ้าผู้ปกครองดูแลรักษาอาการเหล่านี้แล้วยังไม่ดีขึ้น สามารถที่จะมาพบแพทย์ได้ ซึ่งแพทย์ก็จะให้การรักษา ซึ่งก็จะมีหลักการคล้ายๆ กัน คือจะรักษาอาการภูมิแพ้ รักษาเรื่องต่อมทอนซิล และดูแลสุขภาพทั่วๆ ไปให้เขามีอาการดีขึ้น ร่วมกับการใช้ยากิน ยาพ่น ก็จะช่วยให้เด็กนอนกรนลดลงได้

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

คอนแทคเลนส์เหมาะสำหรับคุณหรือไม่

              ในปัจจุบันมีการนิยมใส่คอนแทคเลนส์กันมากซึ่งการใช้นั้นก่อนใช้คุณควรที่จะมีการพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คคุณภาพสายตาให้แน่ใจก่อนว่าคุณควรที่จะใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ โดยทั่วไปแล้วสำหรับผู้ที่เหมาะและไม่เหมาะสมที่ใช้นั้น มีดังนี้

1. ผู้มีความเหมาะสม
  • ผู้ที่มีปัญหาสายตา ได้แก่ สายตาสั้น, สายตาเอียง, สายตายาว และสายตาสูงอายุ
  • ผู้ที่สุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว 
  • ผู้ผ่านการผ่าตัดต้อกระจก กรณีไม่ได้ใส่เลนส์เทียม 
2. ผู้ที่ไม่เหมาะสม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคภูมิแพ้ , โรคไซนัส รวมถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ ตาแดง กระจกตาไม่ไวต่อความรู้สึก, ตาแห้ง, กระพริบตาครึ่งตา
  • ผู้ที่ทำงานที่มีมลภาวะ เช่น มีความร้อนสูง มีควันบุหรี่หรือควันพิษ มีไอระเหยสารเคมี สถานที่ที่มีลมแรง มีฝุ่นละออง ซึ่งมลพิษดังกล่าวจะทำให้เกิดการระคายเคือยดวงตา และอาจทำให้คอนแทคเลนส์มีอายุการใช้งานน้อยลง
  • ผู้ที่มีอายุไม่เหมาะสมกับการใช้งาน เนื่องจากผู้ที่จะใช้คอนแทคเลนส์ได้นั้นจะต้องทราบถึงการดูแลรักษาและวิธีใช้เป็นอย่างดี